พันธุ์เป็ดเนื้อ
เป็ดพันธุ์แท้แบ่งได้ 3 ประเภทคือ เป็ดพันธุ์เนื้อ เป็ดพันธุ์ไข่ เป็ดพันธุ์เนื้อพันธุ์ไข่
นอกจากมีเป็ดพันธุ์แท้แล้วก็ยังมีเป็ดพันธุ์ลูกผสม ที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์เพื่อต้องการลักษณะต่างๆ
ที่ตลาดต้องการ
เป็ดที่เลี้ยงเป็นการค้าในปัจจุบันทั้งเป็ดเนื้อและเป็ดไข่พันธุ์ต่าง
ๆ มีหลักฐานยืนยันว่าได้รับการ ปรับปรุงพันธุ์มาจากเป็ดมอลลาร์ด

ลักษณะประจำพันธุ์ : มีขนสีขาว ปากมีสีเหลืองหรือสีส้มแข้ง ผิวหนังสีเหลือง
มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน รูปร่างใหญ่โต
ลำตัวกว้างลึกและหนา ขนสีขาวล้วน ปากสีเหลือง-ส้ม แข้งและเท้าสีหมากสุก
ผิวหน้าสีเหลือง เลี้ยงง่าย ไม่ฟักไข่ ให้ไข่ดีพอใช้ ประมาณ 160 ฟองต่อปี เปลือกไข่สีขาว เมื่อโตเต็มที่ตัวผู้หนักประมาณ 4 กก. ตัวเมียหนัก 3.5 กก.
เป็ดปักกิ่งมีนิสัยค่อนข้างตื่นตกใจง่าย
ผู้เลี้ยงควรระวัง เพราะอาจกระทบกับการเจริญเติบโตได้
ใช้เลี้ยงไล่ทุ่งไม่ค่อยได้ผล ควรเลี้ยงในเล้าที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
จึงจะเติบโตดี นอกจากให้เนื้อแล้ว
ขนเป็ดปักกิ่งยังเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมผลิตลูกขนไก่ และใช้ทำฟูกที่นอนได้ด้วย
2. เป็ดเทศ (Muscovy)

มีต้นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ เป็นเป็ดอีกพันธุ์หนึ่งต่างหาก
เมื่อทำการผสม
พันธุ์กับเป็ดพันธุ์อื่น จะให้ลูกเป็นหมัน เช่น เป็นพันธุ์ปั๊วฉ่าย
เป็ดเทศใช้อาหารพวกพืชสดได้ดีคล้าย
ๆ กับห่าน เป็นเป็ดที่ให้เนื้อดีแต่ให้ไข่น้อย และโตค่อนข้างช้า
จึงไม่ค่อยมีผู้นิยมเลี้ยงเป็นการค้า เป็ดเทศชอบฟักไข่และเลี้ยงลูกไก่
มีนิสัยชอบบิน เมื่อโตเต็มที่ตัวผู้ จะมีน้ำหนักประมาณ 4-4.5 กก. ตัวเมียมีน้ำหนัก 3.0-3.5 กก.
เป็ดเทศมี 2 ชนิด คือชนิดมีสีขาวและชนิดสีดำทั้ง 2 ชนิดบริเวณหน้าและเหนือจมูก
มีหนังย่นสีแดงเป็นเทศชนิดที่มีสีขาวจะมีขนสีขาว ผิวหนังสีขาว
แข้งสีเหลือง-ส้มอ่อน ปากมีสีเนื้อ
ชนิดสีดำมีขนที่หน้าอก ลำตัวและหลังสีดำประขาวปากสีชมพู แข้งสีเหลืองหรือตะกั่วเข้ม
ชนิดสีดำมีขนที่หน้าอก ลำตัวและหลังสีดำประขาวปากสีชมพู แข้งสีเหลืองหรือตะกั่วเข้ม
3. พันธุ์ปั๊วฉ่าย
เป็นเป็ดพันธุ์ผสมระหว่างเป็ดเทศกับเป็ดธรรมดา
พันธุ์พื้นเมืองของไทย ลูกเป็ดที่ได้จะเป็นหมันทั้งเพศผู้และเพศเมีย
ลักษณะเป็ดพันธุ์นี้ : คือโครงร่างใหญ่ เล็บแหลมดำ และว่องไว
กระโดดเก่งกว่าลูกเป็ดธรรมดา เลี้ยงง่าย โตเร็ว ไม่เที่ยวหากินไกล ไม่ร้องเสียงดัง
รสชาติของเนื้อดีกว่าเป็ดธรรมดา เนื้อแน่น มีไขมันต่ำ ชาวจีน
นิยมบริโภคมานานนับร้อยปีแล้ว ในช่วงตรุษและสารทจีน ราคาดีกว่าเป็ดธรรมดามาก
การเลี้ยงใช้เวลาประมาณ 3.5-4 เดือน เป็ดตัวผู้จะมีน้ำหนัก 3-3.5 กก. ส่วนตัวเมียจะหนัก 2.5-3 กก.
การเลี้ยงใช้เวลาประมาณ 3.5-4 เดือน เป็ดตัวผู้จะมีน้ำหนัก 3-3.5 กก. ส่วนตัวเมียจะหนัก 2.5-3 กก.
4. พันธุ์ลูกผสม
ไฮ-บริด

5. พันธุ์พื้นเมือง
มีอยู่ 2 พันธุ์ด้วยกัน คือ
5.1พันธุ์นครปฐม
เป็นเป็ดตัวผู้ที่คัดออกจากเป็ดพันธุ์ไข่ และนำมาเลี้ยงเป็นเป็ดเนื้อ
ได้รับความนิยมจากผู้เลี้ยงมากที่สุด เพราะลูกเป็ดราคาถูก เลี้ยงง่าย
และได้น้ำหนักดีกว่าเป็ดพื้นเมืองพันธุ์อื่น ๆ ใช้เวลาเลี้ยง 3-4 เดือน ได้ น้ำหนักเฉลี่ย 1.6-2.0 กก.
ตัวผู้จะมีหัวสีเขียว คอควั่นขาว อกสีแดง ลำตัวสีเทา และเท้าสีส้ม
5.2พันธุ์กากีผสม
เป็นเป็ดตัวผู้ที่คัดออกจากเป็ดไข่พันธุ์กากีผสมและนำมาเลี้ยงเป็นเป็ดพันธุ์เนื้อ
เป็นเป็ดพันธุ์ เล็ก น้ำหนักไม่ค่อยดี จึงไม่นิยมเลี้ยงกันมากนัก ใช้เวลาเลี้ยง 4 เดือน ได้น้ำหนัก 1.3-1.6 กก.
การเลี้ยงเป็ดตัวผู้เป็นเป็ดพันธุ์เนื้อเดิมทีเดียว
ไม่ได้นิยมกันมากนัก จนกระทั่งเกษตรกรแถบนครปฐม สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา อยุธยา
อ่างทอง หลังจากทำนาแล้ว ก็ลองซื้อลูกเป็ดตัวผู้มาเลี้ยง จนกลายเป็นความนิยมทั่วไป
โดยส่วนมากนิยมเลี้ยงเป็ดพื้นเมือง การเลี้ยงก็โดยอาศัยให้เป็ดหากินเก็บข้าวตกและลูกกุ้ง
ลูกปลาตามหนอง คลอง บึง ต่าง ๆ
6.เป็ดบาบารี่

ลักษณะเด่น : ของเป็ดพันธุ์บาบารี่
คือ เลี้ยงง่าย ทนต่อโรค เลี้ยงได้ทั้งผักตามธรรมชาติและอาหารข้นผสมรำปรายข้าว
ให้อาหารเพียงวันละ 2 มื้อ เช้าและเย็น ซึ่งใน 1 ปี สามารถเลี้ยงได้ถึง 5 รุ่น
โดยแต่ละรุ่นจะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 75 วัน
จะมีน้ำหนักประมาณตัวละ 2.8 กิโลกรัม
จำหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 60 บาท
ขั้นตอนการเลี้ยงเป็ด
การเลี้ยงลูกเป็ด 0-2 สัปดาห์
1. การเตรียมโรงเรือนสำหรับลูกเป็ด
0-2 สัปดาห์
1.1 การทำความสะอาดโรงเรือนและอุปกรณ์ที่ใช้ สำหรับลูกเป็ดระยะแรก
โดยการล้างน้ำและนำออกตากแดด การเตรียมกรงกก จะต้องเตรียมล่วงหน้าอย่างน้อย 2
สัปดาห์ และเปลี่ยนวัสดุรองพื้นใหม่ทุกครั้งที่นำเป็ดเข้า
1.2 การให้น้ำสะอาด
ในระยะแรกที่ลูกเป็ดมาถึงฟาร์ม น้ำที่เตรียมไว้ควรเป็นน้ำสะอาด
1.3 โรงเรือนและอุปกรณ์
ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าได้แก่
- โรงเรือนที่ใช้กกลูกเป็ด ควรป้องกันลมและฝนได้
พร้อมที่จะต้องป้องกันสัตว์ต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูและเป็นพาหนะนำเชื้อโรคมาสู่เป็ด
เช่น สุนัข แมว หนู นก ต่าง ๆ
1.4 ลงบันทึกในใบรายงานการเตรียมโรงเรือน
2. การกกลูกเป็ด
2.1 การกกควรแบ่งลูกเป็ดกรง
ๆ ละ 60 ตัว บนกรงกกขนาด 110 x 130 ซม.
2.2 แหล่งความร้อนใช้หลอดไฟฟ้า 100 วัตต์ 1 หลอด / ลูกเป็ด 60 ตัว ในเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวัน
ให้ใช้แสงธรรมชาติ
3. การให้น้ำและอาหารลูกเป็ด
ในระยะเวลา 2 วันแรก
ควรให้อาหารสำหรับเป็ดแรกเกิด - 3 สัปดาห์
ใส่ภาชนะแบนๆ มีขอบเตี้ย ๆ และมีน้ำสะอาดวางให้กิน
น้ำควรเป็นน้ำสะอาดปราศจากคลอรีน ภาชนะใส่น้ำควรล้างทำความสะอาดทุก ๆ วัน วันละ 2
ครั้ง
4. สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อลูกเป็ดมาถึงฟาร์ม
เมื่อลูกเป็ดมาถึงและนำลูกเป็ดออกวางในกรงกก
ควรสำรวจดูความแข็งแรง ถ้าตัวไหนอ่อนแอก็ให้แยกเลี้ยงต่างหาก
ทันทีที่ปล่อยลูกเป็ดลงพื้นของกรงกก สิ่งแรกที่ควรสอนลูกเป็ด คือ
ให้ลูกเป็ดกินน้ำและต้องให้กินน้ำก่อน 2-3 ชั่วโมง เมื่อเห็นตัวไหนกินน้ำไม่เป็นควรจะจับปากลูกเป็ดจุ่มลงในน้ำ
เพื่อให้ลูกเป็ดเรียนรู้
การเลี้ยงเป็ด 6 สัปดาห์ ขึ้นไป
เมื่อลูกเป็ดระยะนี้จะเจริญเติบโตเต็มที่โดยเป็ดเพศเมียจะเจริญเติบโตเต็มที่
ช่วงระยะเวลา 8 สัปดาห์
และเป็ดเพศผู้จะเจริญเติบโตเต็มที่ ช่วงระยะเวลา 10 สัปดาห์ การเลี้ยงเป็ดระยะช่วงเวลา 6 สัปดาห์ขึ้นไปนี้มีข้อปฏิบัติดังนี้
1. การให้อาหาร จะใช้อาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงดูเป็ดช่วงระยะเวลา 6 สัปดาห์ขึ้นไป การให้อาหารช่วงระยะเวลานี้ต้องหมั่นตรวจสอบความเพียงพอสำหรับเป็ดในกินอาหาร
พร้อมทั้งเกลี่ยอาหารให้กระจายสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้เป็ดได้รับอาหารในปริมาณที่เท่า
ๆ กัน น้ำหนักเป็ดสม่ำเสมอทั้งฝูงและเป็ดจะได้มีความสมบูรณ์เต็มที่
2. การให้น้ำ ต้องสะอาด ควรทำความสะอาดรางน้ำถ้ามีตะไคร่น้ำ ควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย
และหมั่นตรวจสอบดูว่ามีอาหารตกค้างรางน้ำหรือไม่ เพราะจะทำให้น้ำเสียได้ง่าย
3. หมั่นตรวจสอบรอบ
ๆ โรงเรือน อย่าให้หนู แมว หมา
มาบริเวณโรงเรือนเลี้ยงเป็ด
อุปกรณ์ในการเลี้ยงเป็ด
1.เครื่องกกลูกเป็ด ลูกเป็ดเมื่อยังเล็กอยู่ไม่สามารถสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้เพียงพอ
เมื่ออยู่ในสภาพ อากาศเย็นโดยเฉพาะในเวลากลางคืนหรือตอนเช้า
ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้นานๆ ลูกเป็ดจะตายหรือแคระ แกร็นได้
ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงต้องมีเครื่องกกเพื่อให้ลูกเป็ดได้รับความอบอุ่นเพียงพอ การกกลูกเป็ด
สามารถท้าได้ 2 วิธี คือ กกโดยใช้แม่เป็ดกก และกกโดยใช้เครื่องกก
1.1
การกกด้วยแม่เป็ด
เป็นวิธีแบบธรรมชาติใช้ได้ส้าหรับกรณีที่เลี้ยงเป็ดจ้านวนไม่ มากหรือเป็นการเลี้ยงแบบหลังบ้าน
มีลูกเป็ดไม่กี่ตัวก็ปล่อยให้แม่เป็ดกกและเลี้ยงลูกเอง
1.2
กกด้วยเครื่องกก เครื่องกกที่มีใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ เครื่องกกแก๊ส
เครื่องกกไฟฟ้า หลักการและวิธีด้าเนินการ
ดูรายละเอียดในการเลี้ยงไก่และการจัดการไก่กระทง
2. อุปกรณ์ให้อาหาร อุปกรณ์ให้อาหารเป็ดควรท้าเป็นรางจะได้ผลดีกว่าการใช้ถังอาหารเช่นเดียวกับที่ใช้ในการเลี้ยง
ไก่ เนื่องจากเป็ดเป็นสัตว์ปีกที่หากินตามแหล่งน้ำ
ปากเป็ดจึงออกแบบมาให้เหมาะสมกับการกินอาหาร ในลักษณะกรองของแข็งจากนั้น ดังนั้น
พฤติกรรมการกินอาหารของเป็ดจะไม่ใช้วิธีจิกแล้วกลืนกินแบบ ไก่
แต่จะกินอาหารเข้าปากก่อนแล้วจึงค่อยยกหัวขึ้นเพื่อกลืนอาหารโดยใช้ลิ้นดันเข้าไป
จึงทำให้อาหาร บางส่วนร่วงหล่นออกจากปาก ดังนั้น การให้อาหารเป็ดจึงควรใช้อุปกรณ์ให้น้ำแบบรางจะช่วยให้อาหาร
หกหล่นจากปากสู่พื้นน้อยกว่าการให้แบบถังอาหาร รางอาหารสำหรับเป็ดมีหลายรูปแบบ
เช่น ท้าเป็น รางไม้กึ่งอัตโนมัติ รางไม้รูปตัววี หรือรูปตัวยู
หรืออาจจะใช้รางรถยนต์ผ่าซีกก็ได้
3. อุปกรณ์ให้น้ำ เนื่องจากเป็ดเป็นสัตว์ที่หากินตามแหล่งน้ำ
ดังนั้น นอกจากเป็ดจะดื่มน้ำแล้วก็ยังมีนิสัยชอบเล่น น้ำอีกด้วย จึงท้าให้สิ้นเปลืองน้ำมาก
ถ้าหากเราใช้กระปุกน้ำเช่นเดียวกับที่ใช้เลี้ยงไก่ก็อาจจะสิ้นเปลือง แรงงานมากในการเติมน้ำ
ดังนั้น การเลี้ยงเป็ดจึงนิยมใช้อุปกรณ์ให้น้ำแบบรางอัตโนมัติ โดยอาจจะใช้ ท่อน้ำขนาดใหญ่ผ่าซีกแล้วใช้ปูนซีเมนต์ปิดหัวท้าย
ด้านหนึ่งติดวาล์วลูกลอยเพื่อควบคุมระดับน้ำในราง หรืออาจจะก่อปูนท้าเป็นรางน้ำไว้ด้านหนึ่งของโรงเรือนเพื่อให้เป็ดได้กินและเล่นน้ำด้วยก็ได้
น้ำที่ล้น ออกมาก็ปล่อยให้ไหลออกไปนอกโรงเรือน รางน้ำควรจะวางให้ห่างจากรางอาหารพอควร
เพื่อบังคับให้เป็ดได้เดินไปกินน้ำและอาหารจะ ช่วยให้เป็ดได้ออกกำลังกายและช่วยลดการการสูญเสียอาหาร
เนื่องจากเมื่อเป็ดกินอาหารก็จะกินจนเต็ม ปากแล้วจึงค่อยกลืนลงคอ
ถ้าหากอุปกรณ์ให้อาหารอยู่ใกล้อุปกรณ์ให้น้ำเมื่อกินอาหารอยู่ในปากเป็ดก็จะเดินไปกินน้ำทันทีจะทำให้อาหารที่ยังค้างอยู่ในปากตกลงไปในน้ำท้าให้สิ้นเปลืองอาหารและท้าให้น้ำ
สกปรกเร็วขึ้น
การเตรียมตัวเพื่อเลี้ยงลูกเป็ด
ก่อนลูกเป็ดมาถึงควรเตรียมตัวในเรื่องต่างๆ ที่จำเป็นไว้ให้พร้อม
ดังนี้
1. ทำความสะอาดโรงเรือนและอุปกรณ์การเลี้ยง
พร้อมทั้งพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 7 วัน
2. นำวัสดุรองพื้นหรือเปลือกข้าวที่ใหม่และสะอาด
รองพื้นคอกให้มีความหนาประมาณ 4 นิ้ว วัสดุรองพื้นนี้จะต้องแห้ง
สะอาด และไม่มีเชื้อรา
3. จัดเตรียมเครื่องกกให้พร้อมที่จะใช้งานเมื่อลูกเป็ดมาถึง
4. มีแผงล้อมเครื่องกกกันไม่ให้ลูกเป็ดออกห่างจากเครื่องกกมากเกินไป
แผงล้อมเครื่องกกอาจ ใช้ลวดตาข่าย แผงไม้ไผ่สาน (เสียม) หรือสังกะสีแผ่นเรียบ
ความสูงประมาณ 50 เซนติเมตร วางห่าง จากเครื่องกกประมาณ 60
เซนติเมตร ในระยะการกก 2-3 วันแรก
5. จัดเตรียมอุปกรณ์ให้น้ำและอาหารไว้ให้พร้อม
และมีปริมาณเพียงพอ
6. เพื่อให้ลูกเป็ดกินอาหารเป็นได้เร็วขึ้น
ควรปูพื้นบริเวณเครื่องกกด้วยกระสอบป่านที่สะอาด แล้วโรยอาหารให้กิน
อย่าใช้กระดาษปูพื้นเนื่องจากกระดาษจะลื่นจนเป็นสาเหตุท้าให้ลูกเป็ดขาเสียได้
การเลี้ยงดูลูกเป็ด
การเลี้ยงดูลูกเป็ดเล็กมีหลักปฏิบัติง่าย ๆ ดังนี้
1. ลูกเป็ดอายุ 1
วันถึง 3 สัปดาห์
ควรให้ความอบอุ่นด้วยเครื่องกก
2. ระวังอย่าให้ลูกเป็ดเล็กลงเล่นน้ำ
อุปกรณ์ให้น้ำควรจะมีที่กั้นไม่ให้เป็ดลงไปเล่น เพราะลูกเป็ด เล็กขนจะเปียกง่ายเนื่องจากต่อมน้ำมันที่ช่วยให้ขนเป็ดเป็นมันและป้องกันการเปียกน้ำยังมีน้อย
ซึ่ง อาจจะทำให้เป็ดหนาวและเป็ดปอดบวมได้ง่าย หรือตายได้
3. การให้อาหารลูกเป็ดในช่วงแรกควรให้กินครั้งละน้อยหรือให้อาหารทุก
2-3 ชั่วโมงและจากนั้น เมื่อลูกเป็นกินอาหารได้เก่งแล้วก็จะลดลงให้วันละ
3 ครั้ง ปริมาณอาหารที่ให้ควรให้มากพอที่ลูกเป็ดจะ กินได้เกือบตลอดเวลาแต่อย่าให้จนเหลือและต้องคอยดูความสะอาดอย่าให้เศษดินและสิ่งสกปรกลงไปใน
อาหารจนกระทั่งอายุครบ 1 สัปดาห์
การจัดการอื่น ๆ
1. การจี้ปาก (Beak
trimming) เนื่องจากปากของเป็ดจะแตกต่างจากปากของไก่ ดังนั้น การจี้
ปากจึงแตกต่างกัน สำหรับเป็ดจะทำการจี้เฉพาะบริเวณส่วนปลายที่งองุ้มลงมา (Nail)
ประมาณ 2 มิลลิเมตรเท่านั้น
การจี้ปากมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็ดได้กินอาหารอัดเม็ดได้สะดวกขึ้น
การจี้ปากจะท้า เมื่อเป็ดอายุประมาณ 14 วัน
โดยใช้แผ่นเหล็กร้อนประมาณ 800 °ซ
2. การให้แสงสว่าง
การให้แสงสว่างสำหรับเป็ดเนื้อนั้น ระยะกกจะให้แสง 24 ชั่วโมง
เพื่อให้ลูก เป็ดมีโอกาสได้กินอาหารได้มากขึ้น
เมื่อเป็ดโตขึ้นหรือในระยะเป็ดรุ่นอาจจะให้แสงเพียง 12 ชั่วโมง/วัน
หรืออาจจะให้แสง 23 ชั่วโมง/วันก็ได้ ความเข้มแสงประมาณ 1
ฟุตเทียน (10 ลักซ์) เพื่อให้เป็ดได้ มองเห็นอาหารและน้ำก็เพียงพอแล้ว
การฆ่าและการถอนขน
1. การเตรียมตัวก่อนฆ่าเป็ด
ก่อนการฆ่าเป็ดจะต้องอดอาหารประมาณ 6 ชั่วโมงแต่ต้องให้ เป็ดได้ดื่มน้ำตลอดเวลา
เพื่อไม่ให้มีอาหารตกค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหารซึ่งอาจจะท้าให้ปนเปื้อนเนื้อ เป็ดได้
2. การจับและการขนส่ง
การจับและการขนส่งเป็ดไปยังโรงงานช้าแหละจะท้าคล้ายกับการจับ ไก่กระทงคือ
จะต้องระวังไม่ได้เป็ดบอบช้ำโดยเฉพาะบริเวณผิวหนัง ระวังอย่าให้เป็นแผลขีดข่วน
ปีกหัก ขาหัก เนื่องจากจะทำให้ราคาตก
3. การฆ่าและการถอนขน
ปัจจุบันมีโรงงานชำแหละเป็ดเนื้อที่ทันสมัยจะมีวิธีการฆ่าและการ ถอนขนตามขั้นตอนดังนี้
- เป็ดจะถูกย้ายจากกล่องขนส่ง จับแขวนบนราวเหล็กในลักษณะเอาหัวลง
ตัวเป็ดจะถูก เลื่อนไปตามราวเหล็กผ่านส่วนที่มีการช๊อตด้วยกระแสไฟฟ้าให้สลบเสียก่อน
- เชือดคอเอาเลือดออก เป็ดที่ตายแล้วจะถูกลวกในถังน้ำรอนที่ควบคุมอุณหภูมิไว้
ประมาณ 135-145 °ฟ – เมื่อลวกน้ำร้อนแล้วเป็ดจะถูกส่งไปยังเครื่องถอนขนจนเหลือแต่ขนดาวน์และขนเส้น
ขนาดเล็ก - เป็ดจะถูกเป่าด้วยลมจนแห้งเพื่อให้ขนดาวน์และขนเส้นที่ยังคงเหลืออยู่นั้นฟูขึ้นมา
- น้าเป็ดจุ่มลงในถังกาวที่ต้มจนเหลว มีอุณหภูมิประมาณ 145-220
°ฟ ให้กาวเคลือบ จนทั่วล้าตัวเป็ดและมีความหนาพอสมควร
จากนั้นจึงผ่านอ่างน้ำเย็นเพื่อให้กาวที่เคลือบตัวเป็ดนั้นเย็น และแข็งตัวทันที
- ใช้มือแกะกาวออกซึ่งจะมีขนดาวน์และขนเส้นติดออกมากับกาวนั้นด้วย
ก็จะทำให้ได้ ซากเป็ดที่สะอาด กาวส่วนที่ลอกออกมานี้จะนำไปต้มจนละลายแล้วกรองเอาขนออกจากนั้นจึงนำไปใช้
ใหม่ได้อีก – ซากเป็ดที่สะอาดจะถูกนำไปเข้าสู่ขบวนการช้าแหละ
แยกชิ้นส่วน หรือบรรจุลงถุง สุญญากาศทั้งตัวตามความต้องการของตลาด
อาหารสำหรับเป็ดเนื้อ
เนื่องจากเป็ดเนื้อมีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว ดังนั้น อาหารสำหรับเป็ดเนื้อจึงควรเป็นอาหาร
อัดเม็ดจะช่วยให้เป็ดกินอาหารได้มากขึ้นและลดการตกหล่นของอาหาร นอกจากนี้
การให้อาหารอัดเม็ด สำหรับเป็ดเนื้อมีข้อดีอีกหลายประการ ได้แก่
- ประหยัดอาหารได้ประมาณ
15-20% เมื่อเทียบกับอาหารผง เนื่องจากมีการสูญเสียอาหารจาก การตกหล่นน้อยลงและอาหารที่ตกหล่นนั้นเป็ดสามารถเก็บกินได้ง่ายกว่า
- เป็ดกินอาหารได้มากขึ้นส่งผลให้เป็ดมีอัตราการเจริญเติบโตเร็วขึ้นประมาณ
20-30% เมื่อ เทียบกับการให้อาหารแบบป่น
- สะดวกในการจัดการ
โดยเฉพาะส้าหรับฟาร์มขนาดใหญ่
- ช่วยให้รางน้้าสะอาดขึ้น
เนื่องจากเป็ดสามารถกินและกลืนอาหารได้ง่ายกว่าอาหารป่น ขนาดของอาหารอัดเม็ดจะต้องสัมพันธ์กับขนาดและอายุของเป็ดที่เลี้ยง
คือ ลูกเป็ดในระยะเป็ด เล็กควรใช้อาหารอัดเม็ดขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-3
มิลลิเมตร หรืออาหารเม็ดบี้แตก เมื่อ เป็ดโตขึ้นก็ให้อาหารอัดเม็ดขนาดใหญ่ขึ้น
คือ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-4 มิลลิเมตร ตารางที่ 2
แสดงระดับความต้องการโภชนะในอาหารเป็ดเนื้อพันธุ์ปักกิ่งระยะต่าง ๆ
การสุขาภิบาลและการป้องกันโรค
การสุขาภิบาลและการป้องกันโรคเป็ดนั้นกระท้าเช่นเดียวกับการเลี้ยงไก่
แต่โรคที่เกิดกับเป็ดจะ แตกต่างกับไก่ โรคที่ส้าคัญที่มักเกิดกับเป็ด ได้แก่ เพล็ก
อหิวาต์สัตว์ปีก และสารพิษ
โรคของเป็ด
โรคเพล็ก
สาเหตุ เกิดจากเชื้อไวรัส
อาการ เป็ดจะแสดงอาการขาอ่อน
นอนหมอบ ตัวสั่น ต่อมาไม่ช้าจะเกิดอาการอัมพาต เป็ดกระหายน้ำจัด บางทีมีน้ำลาย
เหนียว ๆ ไหลออกจากปาก ตาแฉะ จมูกสกปรก หายใจมีเสียงครืดคราด ท้องเดิน
อุจจาระสีขาว และจะตายภายใน 24 ชั่วโมง
ระยะฟักตัวของโรคตั้งแต่ต้นจนแสดงอาการเหล่านี้ประมาณ 1 สัปดาห์
คุณลักษณะของวัคซีน
เป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อไวรัสเชื้อเป็น สเตรนแจนเซ่น สำหรับทำวัคซีนในเป็ด
ไม่ทำให้เป็ดเป็นโรค แต่สามารถทำให้เกิดความคุ้มโรคกาฬโรคเป็ดได้เป็นอย่างดี วัคซีนกาฬโรคเป็ด เป็นวัคซีนแห้งบรรจุในขวดสูญญากาศ
วิธีการใช้และขนาดของวัคซีน
ละลายวัคซีนด้วยน้ำยาละลาย เขย่าให้ละลายให้หมด แล้วใช้ทันที ควรแช่ในน้ำแข็ง และใช้ภายใน 2 ชั่วโมง ห้ามเก็บวัคซีนที่เหลือไว้ใช้ในคราวต่อไป
วิธีการฉีด
ฉีดวัคซีนเข้าใต้ผิวหนัง
(คอ) หรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (ที่อก) ตัวละ 0.5 ซีซี ต่อตัว
โปรแกรมวัคซีน
ฉีดวัคซีนเมื่อเป็ดอายุได้ 21 วัน
ข้อควรระวัง
อย่าทำวัคซีนในช่วงเป็ดผลัดขน เพราะจะได้ภูมิคุ้มกันโรคที่ต่ำ
การเก็บรักษาวัคซีน
วัคซีนผงแห้งควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา อุณหภูมิ 2-8
องศาเซลเซียล หรือในกระติกน้ำแข็ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น